เกร็ดน่ารู้
1. Cool Diet อยากผอมเพรียวต้องดื่มน้ำเย็น การดื่มน้ำเย็นวันละ 50 ออนซ์ จะช่วยเผาผลาญพลังงานเพิ่มขึ้นวันละ 50 แคลอรี่ ช่วยให้น้ำหนักลดลงได้ปีละ 2.5 กิโลกรัม เพราะเมื่อเราดื่มน้ำเย็น ร่างกายต้องใช้พลังงานในการทำให้น้ำนั้นเปลี่ยนอุณหภูมิเป็นอุณหภูมิปกติก่อน ร่างกายจึงใช้พลังงานมากกว่าเดิม เพิ่มการเผาผลาญมากขึ้น แต่ไม่ต้องเป็นน้ำเย็นจัดมาก เพราะร่างกายจะปรับอุณหภูมิไม่ทัน จะเกิดอาการเจ็บป่วยขึ้นมาแทน
2. ฝึกสมองให้สดใสพร้อมจดจำ
1. จิบน้ำบ่อยๆ ในสมองประกอบด้วยน้ำ 85% ถ้าไม่มีน้ำ เซลล์สมองก็จะห่อเหี่ยว ซึ่งส่งผลให้การส่งข้อมูลช้า กลายเป็นคนคิดช้าหรือคิดไม่ค่อยออก จึงควรดื่มน้ำบ่อยๆ ทุกวัน
2. กินไขมันดี สมองคือก้อนไขมัน จำเป็นต้องมีไขมันดีไปทดแทนส่วนที่สึกหรอ แนะนำให้กินจำพวกน้ำมันปลา สารสกัดใบแปะก๊วย ปลาที่มีไขมันดี อย่างปลาแซลมอน นมถั่วเหลือง วิตามินรวม
3. นั่งสมาธิวันละ 12 นาที เพื่อให้สมองเข้าสู่ช่วงที่มีคลื่น Theta ซึ่งเป็นคลื่นผ่อนคลายสุดๆ ทำให้สมองมี Mental Imagery สามารถจินตนาการเห็นภาพและมีความคิดสร้างสรรค์พร้อมเริ่มวันใหม่
4. หัวเราะและยิ้มบ่อยๆ ทุกครั้งที่ยิ้มหรือหัวเราะ จะมีสารเอ็นโดรฟินซึ่งเป็นสารแห่งความสุขหลั่งออกมาเท่ากับเป็นการกระตุ้นให้มีความอยากรักและหวังดีกับคนอื่นไปเรื่อยๆ
5. เรียนรู้สิ่งใหม่ทุกวัน สิ่งใหม่ในที่นี้หมายถึงสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน เช่น กินอาหารร้านใหม่ๆ รู้จักเพื่อนใหม่ อ่านหนังสือเล่มใหม่ คุยกับเพื่อนร่วมงานและเรียนรู้วิธีการทำงานของเขา เป็นต้น เพราะการเรียนรู้สิ่งใหม่ทำให้สมองหลั่งสารเอ็นโดรฟิน และ โดปามีน ซึ่งเป็นสารแห่งการเรียนรู้ กระตุ้นให้อยากเรียนรู้และสร้างสรรค์
6. ให้อภัยตัวเองทุกวัน (Forgive yourself, reduce brain stress) การให้อภัยตัวเองเป็นการลดภาระของสมอง
3. ผู้ชายกับมะเขือเทศสุก
สำหรับหนุ่มๆ ที่กำลังเริ่มมีอาการเตะปี๊ปไม่ดังหรือกลัวว่าจะเป็นหมัน มะเขือเทศคือผลไม้ที่คุณห้ามพลาด เพราะมะเขือเทศสุกมีสารไลโคปีน สูงมาก ช่วยให้ต่อมลูกหมากทำงานได้ดี ประสิทธิภาพและสมรรถภาพต่างๆ จึงทำงานได้เป็นปกติ หากกินมะเขือเทศอย่างน้อยอาทิตย์ละ 10 ผลหรือมากกว่านั้น ความเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก ก็จะน้อยลง 45% ที่สำคัญควรจะทานแบบสุกๆ เช่น กินมะเขือเทศในน้ำพริกอ่องหรือในซอสสปาเก็ตตี้ เพราะเวลามะเขือเทศถูกความร้อนมันจะปล่อยสารไลโคปีนออกมามากขึ้น ไม่อยากได้ชื่อว่าหนุ่มไร้น้ำยารีบกินซะ
4. ประโยชน์ของมะนาวในแง่การนำมาใช้เป็นสมุนไพร
แก้หูด เอาเปลือกมะนาวหมักกับน้ำส้มสายชู 2 วัน ตัดเปลือกมะนาวมาปิดที่หูด ปิดทับด้วยพลาสเตอร์ค้างคืนไว้ รุ่งเช้าจึงเอาออก ให้ทำเช่นนี้นาน 2 อาทิตย์
แก้น้ำกัดเท้า ใช้มะนาวทาที่เป็นตุ่มคัน น้ำกัดเท้า ทาแล้วทิ้งไว้ให้แห้ง ล้างออกด้วยน้ำสบู่ ใช้ผ้าเช็ดให้แห้งแล้วเอาแป้งทา ตุ่มคันก็จะหาย
แก้ปูนซีเมนต์กัด เวลาถูกปูนซีเมนต์กันตามมือ เท้า เอามะนาวมาตัดกลางลูกแล้วบีบน้ำมะนาวตรงที่ปูนกัดก็จะหาย
แก้หัวโน ใช้แป้งดินสอพองผสมน้ำมะนาว ทาตรงที่ช้ำบวมสักพักใหญ่ๆ อาการปวดบวม ปูด ก็จะยุบ หมั่นทาวันละ 1-2 ครั้ง ภายใน 2 วันก็จะหายไปเอง
ใช้ในครัวเรือน หุงข้าวให้ขาวและอร่อย บีบมะนาว 2-3 ช้อนในข้าว แล้วนำไปซาวข้าว เมื่อหุงเสร็จ ข้าวจะขาว สะอาด กินอร่อย ไม่ออกรสมะนาวเลย
- นิ้วมือเวลาเด็ดผักหรือหั่นผัก เนื้อใกล้ๆ เล็บมือจะเป็นสีดำ ใช้มะนาวถูจะแก้ได้
- เวลาใช้มีดผ่าปลีกล้วย มีดจะเป็นสีม่วงคล้ำใช้มะนาวผ่าซีกถูใบมีด มีดจะสะอาดดังเดิม
- ทอดไข่เจียวให้ฟูและนิ่ม ขณะตีไขใส่มะนาว 4-5 หยด ไข่จะฟูและนิ่ม
- การเชื่อมกล้วยหักมุกให้น่ารับประทาน พอน้ำตาลเดือดเป็นยางมะตูม ให้บีบมะนาวครึ่งซีกตามแต่กล้วยมากหรือน้อย จะช่วยให้กล้วยใสน่าทาน
- ต้มปลาสด ให้ปลาคงรูปไม่เละ ไม่มีกลิ่นคาว ควรบีบมะนาวลงไปสักเล็กน้อย
- ใช้มะนาว 2-3 ผล แทรกไว้ในข้าวสาร จะช่วยป้องกันมอดได้
- เปลือกมะนาวใช้เช็ดภาชนะ ทองเหลือง ทองแดง เครื่องเงิน เครื่องนาค เครื่องเงินจะใหม่เงางามสุกใสขึ้น
- ฝานมะนาวเป็นชิ้นบางๆ 2-3 ลูก ใส่ในน้ำเย็น 1 กระป๋อง ประมาณ 10 ลิตร เติมการบูร 2 แท่ง ตั้งทิ้งไว้ในห้องที่ทาสีใหม่ๆ ปิดประตู หน้าต่างให้หมด น้ำมะนาวและการบูรจะช่วยดูดกลิ่นสีได้อย่างดี
- ผ้าที่เปื้อนน้ำหมาก เปื้อนหมึก ใช้น้ำตาลทรายเล็กน้อย โรยตรงรอยเปื้อนหยดน้ำลงไปพอชุ่ม แล้วถูด้วยมะนาวจะลบรอยเปื้อนได้
- เตารีดร้อนจัดรีดผ้าขาว จะทำให้ผ้าเหลือง ให้เอาน้ำมะนาวทาที่เตารีดก่อนรีดผ้า
- ต้มผ้าให้สะอาด ฝานมะนาว 2-3 ชิ้นใส่ลงไปด้วยจะช่วยให้ผ้าสะอาด
- ใช้มะนาว เกลือป่น ถูบริเวณที่เสื้อขาวเปื้อนเลือด ซักด้วยน้ำเย็น จะช่วยให้ออกหมด
- เครื่องใช้ที่เป็นหนังทิ้งไว้นานหลายปีทำให้แข็งกระด้าง เอาน้ำมะนาวถูจะทำให้หนังนิ่ม แล้วใช้น้ำยาขัดอีกที จะทำให้ดูใหม่ขึ้น
ข่าวสด ความงามและสุขภาพ
ฉบับวันที่ 5 , 6 , 14 , 15 , 19 , 20 เมษายน 2554
|