สิ่งที่ต้องปฏิบัติหากเกิดแผ่นดินไหว
ภัยแผ่นดินไหวจะเกิดการสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง โดยไม่มีสิ่งบอกเหตุล่วงหน้า เมื่อเกิดแผ่นดินไหวอย่างรุนแรงมักมีเหตุอาฟเตอร์ช็อกตามมาอีกหลายครั้ง อาจเกิดแผ่นดินแยก แผ่นดินถล่ม และอาคารอาจไม่พังทลายในทันทีแต่อาจจะพังทลายภายหลัง
ข้อควรปฏิบัติเบื้องต้น
- ออกจากอาคารไปสู่ที่โล่งแจ้งในทันที
- หากมีคนอยู่จำนวนมากอย่าแย่งกันออกที่ประตู เพราะจะเกิดอันตรายจากการเหยียบกัน
- หากออกจากอาคารไม่ได้ให้หมอบอยู่ใต้โต๊ะ หรือยืนชิดติดกับเสาที่แข็งแรง
- คลุมศีรษะไว้จนกระทั่งแผ่นดินไหวหยุดเอง
- ถ้าอยู่ในตึกสูงให้อยู่ที่ชั้นเดิม อย่าใช้ลิฟต์
- เตรียมพร้อมเพื่อใช้ระบบเตือนภัยและระบบดับเพลิง
- หากขับขี่ยานพาหนะให้รีบจอดยานพาหนะ ในที่โล่งแจ้ง ห้ามหยุดใต้สะพาน ใต้ทางด่วน ใต้สายไฟฟ้าแรงสูง และ ให้อยู่ภายในรถยนต์
ส่วนการเตรียมพร้อมรับมือ ควรตรวจสอบดูว่าที่พักอาศัยนั้นตั้งอยู่ในเขตพื้นที่เสี่ยงภัย แผ่นดินไหวหรือไม่ เสริมบ้านหรืออาคารให้มั่นคงแข็งแรงมากขึ้นเพื่อต้านแผ่นดินไหว ทำที่ยึดตู้และเฟอร์นิเจอร์ไว้ไม่ให้ล้ม ติดยึดชุดโคมไฟบนเพดานให้มั่นคง จัดการป้องกันไม่ให้แก๊สรั่วไหล โดยใช้สายท่อแก๊สที่ยืดหยุ่นได้ หลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้หน้าต่างหรือผนังห้อง และมีไฟฉาย วิทยุ ไว้ใกล้ตัว เป็นต้น
ตารางมาตราริคเตอร์
มาตราริคเตอร์ เป็นมาตราที่ใช้กำหนดขนาดความรุนแรงของแผ่นดินไหว ที่บันทึกได้ด้วยอุปกรณ์ที่เรียกว่า เครื่องวัดความไหวสะเทือน แผ่นดินไหวที่มีขนาดน้อยที่สุดในเวลานั้นถือเป็นค่าใกล้เคียงศูนย์ มาตราดังกล่าวแบ่งเป็นระดับ โดยทุกๆ 1 ริคเตอร์ที่เพิ่มขึ้น แสดงว่าแผ่นดินไหวแรงขึ้น 10 เท่า แต่โดยทั่วไปกำหนดไว้ในช่วง 0-9 ภายหลังเมื่อเครื่องวัดความไหวสะเทือนมีความละเอียดมากขึ้น สามารถวัดขนาดของแผ่นดินไหวได้ละเอียด ทั้งในระดับที่ต่ำกว่า 0 และที่สูงกว่า 9 เนื่องจากหินในชั้นหลอมละลายที่อยู่ใต้เปลือกโลกได้รับความร้อนจากแกนโลก และลอยตัวผลักดันให้เปลือกโลกแต่ละชิ้นมีการเคลื่อนที่ไปในทิศทางต่างๆ ที่มีการสะสมพลังงานไว้ เมื่อพลังงานมีมากจึงชนและเสียดสีกัน หรือแยกออกจากกัน โดยการสะสมของพลังงานที่เปลือกโลกจะถูกส่งผ่านไปยังเปลือกพื้นโลกของทวีป รอยร้าวของหินใต้พื้นโลกเรียกว่า “ รอยเลื่อน ” และหากรอยเลื่อนที่มีอยู่ได้รับแรงอัดมาก ๆ ก็จะทำให้เกิดแผ่นดินไหวได้เช่นเดียวกัน
สำหรับรอยเลื่อนภายในประเทศไทย เกือบทั้งหมดส่วนใหญ่จะอยู่ในภาคเหนือและภาคตะวันตก โดยรอยเลื่อนที่มีความสัมพันธ์กับการเกิดแผ่นดินไหวในประเทศไทย มีประมาณ 9 แห่ง 1. รอยเลื่อนเชียงแสน 2. รอยเลื่อนแม่ทา 3. รอยเลื่อนเถิน 4. รอยเลื่อนแพร่ 5. รอยเลื่อนเมย-อุทัยธานี 6. รอยเลื่อนศรีสวัสดิ์ 7. รอยเลื่อนเจดีย์สามองค์ 8. รอยเลื่อนระนอง และ 9. รอยเลื่อนคลองมะรุย
ในเมื่อสัญญาณเตือนภัยทางธรรมชาติ ขยับเข้ามาใกล้ประเทศไทยมากขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นปัญหาเรื่องภัยพิบัติทางธรรมชาติไม่ใช่เรื่องไกลตัวเสียแล้ว บทเรียนหลายเรื่องทางธรรมชาติ ในประเทศไทย เคยเห็นมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์สึนามิ คลื่นยักษ์ซัดถล่มจังหวัดชายฝั่งทะเลอันดามันของประเทศไทย เมื่อปลายปี 2547 หรือสถานการณ์น้ำท่วมใหญ่ทั่วประเทศเมื่อปีที่แล้ว
ดังนั้นถึงเวลาแล้วหรือยังกับการเตรียมพร้อมรับมือ ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานภาครัฐและเอกชน รวมไปถึงประชาชนเองก็ต้องหมั่นรับรู้ติดตามข้อมูลข่าวสารว่าเกิดอะไรขึ้นในโลกปัจจุบัน!!
ตัวเลขริคเตอร์
|
จัดอยู่ในระดับ
|
ผลกระทบ
|
อัตราการเกิดทั่วโลก
|
1.9 ลงไป
|
ไม่รู้สึก(Micro)
|
ไม่มี
|
8,000 ครั้ง / วัน
|
2.0-2.9
|
เบามาก(Minor)
|
คนทั่วไปมัก ไม่รู้สึก แต่ก็สามารถรู้สึกได้บ้างและตรวจจับได้ง่าย
|
1,000 ครั้ง / วัน
|
3.0-3.9
|
เบามาก(Minor)
|
คนส่วนใหญ่รู้สึกได้ และบางครั้งสามารถสร้างความเสียหายได้บ้าง
|
49,000 ครั้ง / ปี
|
4.0-4.9
|
เบา(Light)
|
ข้าวของในบ้านสั่นไหวชัดเจน สามารถสร้างความเสียหายได้ปานกลาง
|
6,200 ครั้ง / ปี
|
5.0-5.9
|
ปานกลาง(Moderate)
|
สร้างความเสียหายยับเยินให้กับสิ่งก่อสร้างที่ไม่มั่นคง แต่กับสิ่งก่อสร้างมั่นคงนั้นไม่มีปัญหา
|
800 ครั้ง / ปี
|
6.0-6.9
|
แรง(Strong)
|
สร้างความเสียหายค่อนข้างรุนแรงได้ในรัศมีประมาณ 80 กม.
|
120 ครั้ง / ปี
|
7.0-7.9
|
รุนแรง(Major)
|
สามารถสร้างความเสียหายรุนแรงในบริเวณที่กว้างกว่า
|
18 ครั้ง / ปี
|
8.0-8.9
|
รุนแรงมาก(Great)
|
สามารถสร้างความเสียหายรุนแรงในรัศมีเป็นร้อยกิโลเมตร
|
1 ครั้ง / ปี
|
9.0-9.9
|
รุนแรงมาก(Great)
|
“ล้างผลาญ”ทุกสิ่งทุกอย่างในรัศมีเป็นพันกิโลเมตร
|
1 ครั้ง / 20 ปี
|
10.0
|
ทำลายล้าง(Epic)
|
ไม่เคยเกิด จึงไม่มีบันทึกความเสียหายไว้
|
0
|
เดลินิวส์ หน้า 2 วันเสาร์ที่ 26 มีนาคม 2554
|