ReadyPlanet.com
dot dot




นมัสเต เนปาล article
 
นมัสเต เนปาล

“นมัสเต”  เป็นคำกล่าวสวัสดีของชาวเนปาล บนพื้นที่เชิงเขาอันสูงชัน ส่งผลให้นักท่องเที่ยวผู้ไม่คุ้นชินอย่างเราเหนื่อยหอบจนตัวโยนปนความชื้นจากเทือกเขาหิมาลัย ที่นี่อากาศไม่ร้อนนักแต่ที่หนักสุดก็เห็นจะเป็นฝุ่นผงที่ลอยคลุ้งเกือบทุกหย่อมย่าน  จึงเป็นเรื่องที่นักท่องเที่ยวต้องเตรียมตัวสำหรับคนแพ้ฝุ่นควรเตรียมผ้าปิดจมูก และกระดาษชำระแบบเปียก

ด้วยความที่เนปาลเป็นที่ประสูติของพระพุทธเจ้าทำให้มีโบราณสถานเก่าแก่มากมาย และยังผสมกลมกลืนกับแนวคิดแบบฮินดู เมืองขึ้นชื่อซึ่งเราจะนำพาไปรู้จักอันดับแรกคือ เมืองปาทัน นครโบราณทอดตัวเหนือแม่น้ำพัคมาตี สร้างสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช ได้รับขนานนามให้เป็นเมืองแห่งศิลปะ มีสิ่งปลูกสร้างด้านศาสนามากมาย แค่เข้าเมืองเราก็เหมือนได้ใกล้ชิดกับเทพเจ้า ด้วยมีรูปปั้นทางฮินดูเรียงรายตามสถานที่ศักดิ์สิทธิ์

ด้วยผังเมืองปาทันที่ถูกสร้างไว้แต่โบราณทำให้มีนัยแฝงอยู่  โดยเฉพาะศูนย์กลางของเมืองอย่างดูบาร์ สแควร์ มีโบราณสถานโอบล้อมด้วยเทพเจ้าและสิ่งปลูกสร้างสูงตระหง่าน ขึ้นชื่อว่าลวดลายศิลปะแบบฮินดูจะเห็นหินแกะสลักรูปลวดลายตระการตา แต่ที่สำคัญคือกลอุบายของกษัตริย์สมัยก่อนที่มีการจัดการประปาชุมชนที่เกิดจากน้ำซึ่งไหลจากเทือกเขาหิมาลัยโดยให้ไหลลงมาที่รองน้ำซึ่งอยู่รอบวัง  เพื่อให้ประชาชนได้ใกล้ชิดกับผู้ครองแผ่นดินมากขึ้น

ไม่ไกลจาก ดูบาร์ สแควร์ มีทางตรอกเล็กให้เดินต่อไปยังลานโล่งอันเป็นที่ตั้งของ “กฤษณะ มัณฑีร์” วัดแห่งองค์พระกฤษณะ อันเป็นต้นแบบของสถาปัตยกรรมศิขะระของเนปาล สร้างในปี พ.ศ. 2180 ถือเป็นวัดเดียวในประเทศนี้ซึ่งมีเจดีย์ 21 องค์ที่ทำจากหินแกรนิต สิ่งที่น่าคิดคือหนุ่มสาวของเนปาลหลายคนแม้จะมานั่งจีบกันก็มานั่งหลบตามชายคาโบราณสถาน เป็นภาพที่ยังหาดูได้ และท้าทายยุคสมัยนิยมความฟุ้งเฟ้อที่หนุ่มสาวต้องจูงมือกันเดินไปยังค่านิยมตะวันตก

 ที่นี่เหมือนเราย้อนเวลาสู่อดีตพาให้คิดเล่น ๆ ว่าถ้าไทยเป็นอย่างเนปาลปัจจุบันความงดงามด้านจิตใจผู้คนจะเป็นอย่างไร?  จะแย่งกันขึ้นรถเมล์อย่างปัจจุบันไหม? จะแย่งอำนาจกันอย่างนี้ไหม? จะแย่งกันส่งลูกเรียนที่ดี ๆ เหมือนตอนนี้ไหม? นั่นล่ะทุกอย่างเป็นกงล้อของมัน เช่นเดียวกับกงล้อเวลาที่หมุนให้ “กุมเภสวอร์”
อันเป็นวัดของพระศิวะ เป็นวัดเก่าแก่ที่สุดของเมืองนี้ด้วยมีหลังคา 5 ชั้นลดหลั่น แล้วเวลาก็หมุนไปตามกาลก่อกรรมของแต่ละคน
 พักให้หายใจกันสักฟอดใหญ่ ๆ  นั่งรถไปไม่ไกลก็ถึง วัดทอง ซึ่งวัดนี้ถือว่าศักดิ์สิทธิ์อย่างมาก หลังคาวัดทำด้วยแผ่นทองเป็นเส้นยาวลงมาจดพื้นดินโดยตามความเชื่อถือเป็นเส้นทางซึ่งนำสู่สวรรค์ พวกเราโชคดีอย่างมากที่เจ้าหน้าที่วัดเปิดประตูเหล็กอันแน่นหนา  และล้อมรอบด้วยลูกกรงภายในห้องซึ่งประดิษฐาน
พระศากยมุนี ให้เราได้ถ่ายและอธิษฐาน เพราะนี่ไม่ใช่โอกาสง่าย ๆ  เนื่องจากตามประเพณีจะเปิดให้ชมเป็นบุญตาปีละครั้ง

สิ่งที่เราต้องยอมรับสำหรับ วัดทองด้วยความตระการตาของเทวรูปและตัวอาคารซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นทองแดงหรือเหล็ก  ซึ่งเมื่อต้องแสงจะฉายประกายให้เห็นอย่างน่าชม ถือเป็นอีกวัดที่ได้เปลี่ยนบรรยากาศจากวัดแรก ๆ  ซึ่งส่วนใหญ่ของที่ตกแต่งจะทำจากหินและศิลา

เมืองที่เราจะพาไปต่อคือเมือง ภัคตาปูระบัตตาปูร์ หรือ ภัคตาปูระ  เมืองอันมีความหมายว่า
เมืองแห่งผู้คนที่ภักดีต่อพระผู้เป็นเจ้า ซ่อนตัวอยู่ในหุบเขากาฐมาณฑุ และมีสถานที่สำคัญมากมาย บรรยากาศของเมืองดูจะเพิ่มองศาของอากาศเย็นขึ้น  โดยสภาพเมืองเป็นเนินสูงและเหมาะกับนักท่องเที่ยวผู้ชอบความเงียบสงบเปิดม่านเมืองนี้ด้วย จัตุรัสภักตะปุร์ดูร์บาร์  และ พระราชวัง 55 พระแกล (ประตูทองคำ)  ซึ่งสถาปัตยกรรมที่นี่เดิมเคยเป็นเมืองหลวงเก่าแก่และมีความรุ่งเรืองทางการค้ามาก่อนทำให้              มีพระราชวัง ซึ่งบ่งบอกถึงงานของช่างอันมีกลิ่นอายของเนปาลยุคศตวรรษที่ 18แวะไปไหว้กันต่อยัง มณฑปญาฏะโปละ  มณฑปที่สูงสุดในเนปาล สร้างในสมัยกษัตริย์ภูปตินทระ มัลละ หลังคามี 5 ชั้นถือเป็นอีกความโดยเด่นของที่นี่เลยทีเดียว

ปิดท้ายด้วยสถานที่ซึ่งไม่ควรพลาดหากมาเนปาล ด้วยการไปนั่งสวดมนต์และนั่งสมาธิที่ พระมหาเจดีย์ โพธนาธ  ซึ่งมีความเป็นพุทธอย่างกลมกลืนในห้อมล้อมรอบของชุมชนชาวทิเบตที่อพยพมาตั้งรกรากด้วยเหตุที่จีนเข้ามารุกรานทิเบต  ถือเป็นอีกแห่งที่มีคุณค่าด้านจิตใจอันมหาศาลเมื่อเคยมีคนต้องการทำลายมหาเจดีย์  แต่ด้วยแรงศรัทธาของชาวบ้านโดยรอบทำให้สถานที่แห่งนี้ยังคงหยัดยืนสูงตระหง่านและเป็นเจดีย์ที่สูงสุดของประเทศ  แม้นั่งเครื่องบินผ่านเราจะเห็นทิวธงและยอดของเจดีย์อันประกาศความศรัทธาแห่งพระพุทธศาสนาไปทั่วโลกด้วยดวงตาทั้งสี่ด้านที่จ้องมองอยู่ ในความเป็นศาสนามีรากเหง้าแห่งความงามอยู่เพียงเราเดินรอยตาม อาจไม่ใช่เดินตามแบบทุกกระเบียดนิ้ว แต่เอามาปรับใช้ให้เข้ากับชีวิตอันโกลาหลจะดีกว่า

การเดินทางไปเนปาล

 การเดินทาง  สายการบินไทย มีเที่ยวบินไปเนปาลทุกวัน วันละ 1 เที่ยว ส่วนสายการบินรอยัลเนปาล มีเที่ยวบินไปและกลับ เฉพาะวันจันทร์ พุธ และศุกร์ วันละ 1 เที่ยวเช่นกัน  ถ้าจะไปสายการบินนี้ต้องวางแผนล่วงหน้า

ฤดูท่องเที่ยว  เนปาลมีอากาศที่แตกต่างกันมากในระหว่างปี  โดยฤดูหนาวจะอยู่ในช่วงเดือนธันวาคม-กุมภาพันธ์  ฤดูใบไม้ผลิอยู่ในระหว่างเดือนมีนาคม-พฤษภาคม ฤดูร้อนอยู่ในช่วงเดือนมิถุนายน-สิงหาคม  และฤดูใบไม้ร่วงอยู่ในระหว่างเดือนกันยายน-พฤศจิกายน ช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับการท่องเที่ยวมากที่สุดอยู่ระหว่างเดือนตุลาคม-มีนาคม สำหรับในกรุงกาฐมาณฑุ  โดยปกติจะมีอุณหภูมิ ระหว่าง 2-3 องศาเซลเซียส  ในฤดูหนาว และ 10-22 องศาเซลเซียส ในฤดูร้อนและมีอุณหภูมิเฉลี่ยทั้งปีประมาณ 11 องศาเซลเซียส

 ของฝาก 

 ส่วนใหญ่จะเป็นผ้าคลุมไหล่และพรม แต่ควรเลือกดูให้ดีและศึกษาการเลือกผ้าไปก่อนจะดีมาก


 สิ่งที่ต้องเตรียม 

ยาประจำตัวต่าง ๆ ที่จำเป็น เนื่องจากอาจจะหาซื้อไม่ได้ที่เนปาล  นำเงินตราต่างประเทศเข้ามาเนปาลเทียบเท่าหรือมากกว่า 2,000 ดอลลาร์สหรัฐ ต้องแจ้งให้ศุลกากรทราบเพื่อทำบันทึกไว้ก่อนเข้าเมือง และสามารถต่อรองราคาสินค้าได้
 

สิ่งที่ไม่ควรทำ 

ไม่รับประทานเนื้อวัวเพราะคนเนปาลถือว่าวัวเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์  ไม่ใส่รองเท้าเข้าบ้าน  วัดหรือสถานบูชา และถ้าเข้าวัดฮินดูห้ามใส่เครื่องหนังเช่น รองเท้าหนังเข็มขัดหนัง ห้ามนำศิลปวัตถุ และวัตถุโบราณอายุเก่าแก่กว่า 100 ปีออกนอกประเทศ ไม่ควรให้เงิน ขนมกับขอทาน และชาวเนปาลถือว่าการใช้เท้าเป็นเรืองไม่สุภาพ เช่นเดียวกับการใช้มือซ้าย การให้และรับของจากผู้อื่นจึงใช้มือขวา

--------------------------------------
 



สาระน่ารู้

จังหวัดน่าน article
จังหวัดบึงกาฬ article
โรงแรมแพงที่สุดในโลก article
สิ่งที่ต้องปฏิบัติหากเกิดแผ่นดินไหว article
ตรวจสอบอาคาร...รับมือแผ่นดินไหว article
เกร็ดน่ารู้ article



Copyright © 2011 All Rights Reserved.
บริษัท สหโรงแรมไทยและการท่องเที่ยว จำกัด The Syndicate of thai Hotels & Tourists Enterprises Limited
973 อาคารเพรสิเด้นท์ทาวเวอร์ ถนนเพลินจิต เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330 Email : saha_hotel@hotmail.com
โทร.0-2656-0044
Copyright © 2011 All Rights Reserved.