ปีนี้กระแสการท่องเที่ยวน่านเริ่มบูมมาตั้งแต่ต้นปี เพราะเส้นทางท่องเที่ยวยังค่อนข้างบริสุทธิ์ แถมปีนี้เป็นปีเถาะ หลายคนจึงเดินทางมาสักการะพระธาตุแช่แห้ง พระธาตุประจำปีเถาะ ตามคติล้านนา เพื่อความเป็นสิริมงคลในชีวิตส่วนคนที่รักความโรแมนติก มาที่ เมืองน่านก็ไม่ผิดหวังแน่
ขอเริ่มเส้นทางความโรแมนติกที่กลางเมืองน่านด้วยการเข้าวัดภูมินทร์ วัดนี้แปลกกว่าวัดอื่น ๆ ตรงที่โบสถ์และวิหารสร้างเป็นอาคารหลังเดียวกัน ประตูไม้ทั้งสี่ทิศแกะสลักลวดลายโดยช่างฝีมือล้านนา ภายในโบสถ์มีภาพเขียนฝาผนัง เนื้อหาภาพส่วนใหญ่จะเล่าเรื่องนิทานชาดก "คันธกุมาร" แต่ในภาพเขียนได้สอดแทรกวิถีชีวิต สมัยก่อนของคนน่าน ที่หวานมาก ๆ ก็คือ ภาพเขียนฝาผนังที่เรียกกันว่า "ปู่ม่านญ่าม่าน" ในภาพนี้ปู่ม่านกำลังกระซิบบอกรักกับญ่าม่าน ภาพนี้จึงถูกเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ภาพ " กระซิบรักบันลือโลก"ละแวกวัดภูมินทร์ยังมีสถาปัตยกรรมแนวหวานแบบล้านนาอีกหลายแห่งอย่างเช่น พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติน่าน วัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร และวัดมิ่งเมือง ความหวานในเมืองน่าน ใช่ว่าจะมีแค่ช่วงกลางวัน ช่วงกลางคืน ก็สามารถเติมความหวานได้ จากร้านของหวานป้านิ่มที่มีของหวานถ้วยเด็ดอย่างบัวลอยไข่หวาน แต่ใครชอบหวาน ๆ ในแบบไอศกรีม หรือซาหริ่ม ก็ลิ้มลองตามถนัด
เติมความหวานให้กับความรักไปแล้ว ลองมาเติมความเค็มให้กับความรักกับเกลือที่ อ.บ่อเกลือ กันหน่อยดีไหม ?
เมืองน่านเป็นแหล่งผลิตเกลือขนาดใหญ่มาตั้งแต่ 5-6 ร้อยปีที่แล้ว ปัจจุบันมีบ่อเกลือสินเธาว์ขนาดใหญ่อยู่ 2 บ่อ ที่ชาวบ้านเขาตักน้ำเกลือจากบ่อขึ้นมาต้มเพื่อผลิตเกลือออกมา แล้วเติมไอโอดีนบรรจุขายเป็นสินค้าสำคัญของอำเภอ ความเค็มของเกลือทำให้สามารถเก็บอาหารไว้ได้นานผ่านการหมักดอง เมื่อเอามาใส่ในความรักย่อมจะทำให้รักนั้นถูกเก็บไว้ได้นาน รักยืนยงผ่านเกลือถุงละ 20 บาท ที่แม่ค้าขายหน้ามนในท้องถิ่นหยิบยื่นขายให้ ก็เข้าทีนะ
นอกจากนี้ ในเดือนกุมภาพันธ์ จนถึงเดือนมีนาคมเป็นช่วงเวลาดี ๆ ในการชมดอกไม้ที่พบเห็นได้ยากอย่าง?ดอกชมพูภูคา? จากต้นชมพูภูคาที่ว่ากันว่าพบเห็นได้ที่อุทยานแห่งชาติดอยภูคา ที่เมืองน่านเพียงแห่งเดียวเท่านั้น ลักษณะดอกไม้เมื่อบานจะคล้ายรูประฆัง กลีบดอกด้านนอกมีสีชมพูจางขาว และกลีบดอกด้านในมีสีชมพูลายเส้นสีม่วง ชูช่อเป็นพวงใหญ่ ลองนึกภาพว่า หากยืนชมดอกชมพู ภูคากับคนที่รู้ใจ จะโรแมนติกขนาดไหน...
สูตรของความโรแมนติกอีกอย่างหนึ่งที่จะขาดไม่ได้เลยก็คือ การชมทะเลหมอก พระอาทิตย์ขึ้น พระอาทิตย์ตก ซึ่งเขาแนะนำให้ลองไปชมที่ดอยชื่อหวานฉ่ำอย่าง ?ดอยเสมอดาว? ที่อุทยานแห่งชาติศรีน่านอันว่าการชมทะเลหมอก ชมพระอาทิตย์ขึ้น พระอาทิตย์ตกดิน ไม่ว่าไปเที่ยวที่ไหน มันขึ้นอยู่กับบุญพาวาสนาส่งเหมือนกันนะว่าจะได้ชมหรือไม่ได้ชมสิ่งเหล่านี้ ก็ขอให้อานุภาพความรักทำให้นักท่องเที่ยวได้ชมวิวสวยก็แล้วกัน อ้อ...อย่าลืมเงยหน้าขึ้นฟ้าดูดาวสวย ๆ บนดอยด้วย
การเดินทางเที่ยวน่านครั้งนี้ ถือเป็น การไปเติมความเค็ม เติมความหวาน เพื่อกลับมาต้านทานความขมในชั่วโมงทำงานหลังหยุดไปเที่ยวก็แล้วกัน (ฮา)
การเดินทาง
เดินทางด้วยรถยนต์ จากกรุงเทพฯใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 32 มาจนถึง จ.นครสวรรค์ จากนั้นใช้เส้นทาง 117 มาจนถึง จ.พิษณุโลก และใช้เส้นทางหมายเลข 11 โดยจะผ่านอุตรดิตถ์ และอำเภอเด่นชัย (จ.แพร่) จากเด่นชัยใช้ทางหลวงหมายเลข 101 ผ่านจังหวัดแพร่ไปจนถึงตัวจังหวัดน่าน ระยะทางประมาณ 668 กิโลเมตร หากเป็นรถโดยสารติดต่อบริษัท ขนส่ง จำกัด โทร.537-8055 ส่วนเครื่องบินสอบถามไปที่บริษัท การบินไทย จำกัด โทร.280-0060, 628-2000 หรือ 1566
|